คำถามที่พบบ่อย

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คือการระดมทุนจากนักลงทุนเพื่อนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ประจำในรูปของค่าเช่า เช่น โครงการเซอร์วิสอพาร์เมนท์, โรงแรมและรีสอร์ท, สนามบิน หรือ โรงงาน เป็นต้น ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้ลงทุนในรูปเงินปันผล
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนในสิทธิการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกองทุนจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ลงทุนนั้น ในขณะที่กองทุนรวมสิทธิการเช่าเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นซึ่งจะมีอายุการเช่ากำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยกองทุนมีสิทธิในการครองครองและสามารถนำทรัพย์สินที่ลงทุนไปดำเนินการเพื่อหาสรรหาผลตอบแทนได้เพียงช่วงระยะเวลาการเช่าเท่านั้น
เนื่องจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มีรายได้หลักการค่าเช่าดังนั้นผลตอบแทนจึงมีความผันผวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นทั่วไป กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว และต้องการผลตอบแทนที่คงที่ โดยสามารถยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาดซึ่งอาจกระทบต่อรายได้การเช่าของกองทุน
นักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์จากค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในรูปของ เงินปันผลที่เกิดจากรายได้ค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์นั้น และ Capital Gain ที่อาจเกิดจากการขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทจัดการสามารถทำการสรรหาผู้มีประสบการณ์ในการบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ดูแลผลประโยชน์ทำหน้าที่ในการดูแลทรัพย์สินของกองทุนรวม ตลอดจนตรวจสอบสภาพของอสังหาริมทรัพย์รวมถึงการจัดทำประกันภัยเพื่อมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในสภาพดีและมีการควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินดังกล่าว
การบริหารจัดการ การหาผู้เช่า การซ่อมแซมบำรุงดูแลรักษาสภาพของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ จะเป็นภาระโดยตรงของผู้ลงทุนหากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุน ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ประจำผ่านกองทุนรวม โดยภาระต่างๆ ในการบริหารจัดการที่กล่าวมาข้างต้น จะได้รับการดูแลโดยผู้บริหารมืออาชีพที่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ดี การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะมีภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดการกองทุนซึ่งผู้ลงทุนสามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนนั้น

การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ผู้ลงทุนอาจได้รับประโยชน์โดยสรุปดังนี้

  • สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ประจำผ่านกองทุนรวม โดยผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับรายได้ประจำเหมือนกับการลงทุนในตราสารหนี้ อย่างไรก็ดี ผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะไม่แน่นอนตายตัวเหมือนตราสารหนี้ แต่อาจเปลี่ยนแปลงตามภาวะของการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์และแนวโน้มเศรษฐกิจ
  • เป็นทางเลือกหนึ่งในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
  • ผู้ลงทุนจะมีสภาพคล่องมากกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง เนื่องจากเป็นการลงทุนในหน่วยลงทุนซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ในการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ผู้ลงทุนควรมีความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นโดยศึกษาข้อมูลโครงการของกองทุนรวมและปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และควรศึกษาหนังสือชี้ชวนฯ อย่างละเอียด โดยศึกษานโยบายการลงทุน รายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมจะลงทุน บริษัทจัดการ นโยบายการจ่ายเงินปันผล ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งผู้ลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ภาวะอัตราดอกเบี้ย วัฏจักรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

นอกจากนี้ผู้ลงทุนควรพิจารณาลักษณะของการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีประเด็นแตกต่างจากการลงทุนทั่วไป ดังนี้

  • ทรัพย์สินหลักของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ อาจเป็นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว ในกรณีนี้อาจกล่าวได้ว่ากองทุนมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่ากองทุนรวมทั่วไป ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงในการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กำไรหรือผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ขึ้นอยู่กับสภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไป ดังนั้น มูลค่าหน่วยลงทุนอาจจะลดลงหากมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนลดลง ตลอดจน กองทุนอาจจะไม่จ่ายเงินปันผลหากมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน
  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ นอกจากนี้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทุนรวมที่มุ่งลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว ผู้ลงทุนจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนในหน่วยลงทุน
  • ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งราคาที่ซื้อขายกันอาจเป็น premium หรือ discount จาก NAV ก็ได้